Time : การอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ และธรรมชาติบำบัด


เราทุกคนต่างรู้กันมาหลายศตวรรษมาแล้วว่าธรรมชาติที่ดีสามารถมีผลกระทบต่ออารมณ์ที่ดีของคนเราได้  ไม่ว่าจะเป็นเสียงธรรมชาติของป่าไม้ กลิ่นของต้นไม้ แสงแดดที่ผ่านลอดใบไม้ อากาศที่สดชื่นและสะอาด สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เรารู้สึกสบายใจ และยังช่วยในการลดความเครียดและความกังวล ช่วยให้เราผ่อนคลาย และมีความคิดที่ชัดเจน การอยู่ในธรรมชาติสามารถฟื้นฟูอารมณ์ ทำให้กลับมีพลังงานและความมีชีวิตชีวาที่สดชื่น

ในประเทศญี่ปุ่นมีการฝึกที่เรียกว่า shinrin-yoku. โดย Shinrin ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง “ป่า” และ yoku หมายถึง “โอบล้อม, การอยู่ร่วมกัน ” ดังนั้น shinrin-yoku จึงหมายถึง “การอาบธรรมชาติ” การโอบล้อม หรือการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติและป่าไม้ หรือการรับรู้ถึงธรรมชาติของป่าไม้ผ่านความรู้สึกของเรา

กิจกรรมนี้ไม่ใช่การออกกำลังกาย การเดินป่า หรือวิ่งออกกำลังกาย แต่เป็นกิจกรรมที่เพียงแค่เราอยู่ร่วมกับธรรมชาติและเชื่อมต่อกับธรรมชาติผ่านทางความรู้สึก โดยการมองเห็น การได้ยิน การรับรู้ถึงรสชาติ กลิ่นและการสัมผัส ถึงสถาพของธรรมชาติ ต้นไม้ และป่าไม้  Shinrin-yoku เปรียบเหมือนกับสะพาน ที่เชื่อมระหว่างเรากับโลกของธรรมชาติ

ในปี 2593 จากงานวิจัยของ The Environmental Protection Agency, คาดการว่า ประชากรทั่วโลก 66% จะอาศัยอยู่ในเมือง นอกจากนี้ประชากรอเมริกันกว่า 93% จะใช้ชีวิตของพวกเขาอยู่แต่ในห้อง ซึ่งจะทำให้เราอยู่ห่างไกลจากธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

จากงานวิจัยหลายฉบับพบว่าการ ”อาบธรรมชาติ” การอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ หรือป่าไม้ แม้เพียงเวลาสั้น ๆ ซัก 2 ชั่วโมง จะส่งผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยให้เราออกห่างจากเทคโนโลยีและช่วยให้เรามีความรู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังทำให้เราตระหนักและกลับมาสู่ความเป็นปัจจุบันของตัวเรา ลดความเครียดและผ่อนคลาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า shinrin-yoku มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง

เรามาดูกันว่า “การอาบธรรมชาติ” หรือการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติทำอย่างไร

อันดับแรก หาสถานที่ที่สงบ ห้ามนำโทรศัพท์ กล้อง หรืออุปกรณ์ใด ๆ ติดตัว ค่อย ๆ เดินอย่างช้า ๆ อย่างไรจุดหมาย ปล่อยให้ร่างกายนำพาเราไป ปล่อยให้ธรรมชาติและต้นไม้พาเราไปยังที่ ๆ อยากจะพาเราไป ให้เวลากับตัวเอง อย่าสนใจว่าเราจะเดินไปที่ไหนหรือแม้แต่คุณไม่ได้เดินไปที่ไหนเลย ปล่อยให้เรารับรู้ถึงเสียง กลิ่น และทัศนียภาพของธรรมชาติและต้นไม้ ป่าไม้ และให้ธรรมชาติเหล่านั้นไหลเข้าสู่ภายในตัวเรา

กุญแจสำคัญในการปลดปล่อยพลังงานของธรรมชาติและต้นไม้อยู่ที่ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเรา คือ หู ตา จมูก ปาก และมือและการสัมผัส จงฟังเสียงของนกร้องเพลง สายลมที่ไหลเอื่อย ๆ ผ่านใบไม้ มองไปยังสีเขียวที่แตกต่างกันของใบไม้และต้นไม้ ดูแสงแดดที่ส่องลอดผ่านกิ่งก้านและสาขาของต้นไม้ลงมา สูดหายใจลึก ๆ เพื่อรับรู้กลิ่นหอมสดชื่นของธรรมชาติ และอากาศที่บริสุทธิ วางมือของเราเพื่อสัมผัสกับต้นไม้ หย่อนเท้าเพื่อสัมผัสกับสายน้ำที่ไหลรินอย่างช้า ๆ ในลำธารที่ใสสะอาด จากนั้นนอนลงบนพื้น ซึมซับในรสชาติของป่าไม้และดึ่มด่ำกับรู้สึกของความสุขและความสงบ และนี่คือสัมผัสที่หก สัมผัสของจิต ที่เราได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติ และได้ข้ามสะพานสู่ความสุข

วิธีการที่จะหาความสงบและการผ่อนคลายจะแตกต่างกันไปในแต่ละตัวบุคคล ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือเจะต้องหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน ถ้าเราชอบกลิ่นอายของดินก็ให้พิจารณาหาสภาพที่คุณชอบและผ่อนคลายมากที่สุด เมื่อเราได้อยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมและชื่นชอบพลังงานจากธรรมชาติจะยิ่งมีพลังมากขึ้นและจะส่งผลต่อความรู้สึกที่ผ่อนคลายและมีความสุข บางทีเราอาจจะมีสถานที่ในชนบทที่เตือนเราให้ระลึกถึงชีวิตในวัยเด็กของเราหรือช่วงเวลาแห่งความสุขในอดีต สถานที่เหล่านี้จะพิเศษสำหรับเรา และความสัมพันธ์กับธรรมชาติจะแข็งแรงมากขึ้น

กิจกรรมมากมายที่สามารถทำได้ใน “การอาบธรรมชาติ” อย่างเช่น การเดินป่า โยคะ การรับประทานอาหารในป่า การบำบัดด้วยน้ำพุร้อน การรำไทเก็ก การทำสมาธิ การนวดอโรมาเธอราปี การเรียนศิลปะ และการดูธรรมชาติ

เราสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ทุกที่ในโลก,  ทุกที่ที่มีต้นไม้, ไม่ว่าจะในสภาพอากาศร้อนหรือเย็น ฝนตก แดดออก หรือหิมะตก คุณไม่จำเป็นต้องมีป่า เมื่อคุณได้เรียนรู้วิธีการทำแล้วคุณสามารถทำได้ทุกที่ – ในสวนสาธารณะใกล้ ๆ บ้าน หรือในสวนหลังบ้าน เพี่ยงแค่เรามองหาสถานที่ที่มีต้นไม้แล้วเริ่มลงมือ

Reference : From FOREST BATHING: How Trees Can Help You Find Health and Happiness by Dr. Qing Li, published on April 17, 2018 by Viking, an imprint of Penguin Publishing Group, a division of Penguin Random House LLC. Copyright © Qing Li, 2018.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Time

http://time.com/5259602/japanese-forest-bathing/?utm_campaign=time&utm_source=line_app&utm_medium=social

 

10 งานมาแรง