รูปแบบของโรงงานในอนาคต


โรงงานมีรูปแบบที่เปลี่ยงแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก

ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยเช่น การพิมพ์แบบ 3D (3D printing) เทคโนโลยีการออกแบบเสมือน (virtual design technology) และปัญญาประดิษฐ์ (AI, artificial intelligence) และการสื่อสารที่รวดเร็วระหว่างส่วนต่าง ๆ ในกระบวนการผลิต ทั้งหมดกำลังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับรูปแบบของโรงงานสมัยใหม่
ศาสตราจารย์ หลี่เจิ้ง (Professor Li Zheng) หัวหน้างานวิจัยระดับปริญญาเอกและรองประธานมหาวิทยาลัย Tsinghua ในกรุงปักกิ่งได้กล่าวว่า ในอดีตเรารูปแบบการผลิตที่สำคัญจะเป็นการผลิตที่เน้นการผลิตในปริมาณมาก ๆ (Mass Production) และมีการนำเอาวิธีการผลิตแบบลีนมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม แต่ในปัจจุบันเราเริ่มมองเห็นกระบวนการผลิตในรูปแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้น

ในรูปแบบกระบวนการผลิตแบบใหม่นี้ วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ นักออกแบบและบุคลากรในโรงงานอุตสาหกรรมได้ช่วยกันออกแบบในสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ในทศวรรษที่ผ่านมา

โอกาศใหม่ ๆ สำหรับตลาดแรงงาน

เนื่องจากโลจิสติกและการผลิตแบบเดิม ๆ เริ่มหมดไปมันจึงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตในภาคอุตสาหกรรมที่อาจเกิดขึ้น
ในรายงานของ World Economic Forum เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้คาดการณ์ว่าเครื่องจักรจะกลายเป็นกำลังสำคัญในด้านการผลิตภายในปีพ. ศ. 2568 และยังผลให้เกิดการลดจำนวนงานลงทั้งหมด 75 ล้านตำแหน่ง แต่ในขณะเดียวกันปัญญาประดิษฐ์ (AI, artificial intelligence) ซึ้งจำเป็นต้องใช้แรงงานคนในการควบคุมเครื่องจักร ซึ่งมีผลให้เกิดการสร้างงานเพิ่มขึ้น 133 ล้านตำแหน่ง

ในรายงานยังกล่าวว่าตลาดแรงงานจะเปลี่ยนไป โดยแรงงานที่ทำงานอิสระและทำงานชั่วคราวจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น

โอกาสของแรงงานใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นกับผู้ที่สามารถควบคุมและใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ นี้เองจะเป็นตัวทำลายระบบการศึกษาของเราเอง เพราะในความเป็นจริงเราไม่สามารถระบุได้ว่าวิชาการในแขนงใดที่จะเหมาะกับตลาดแรงงานในอนาคต
นาย ไมเคิล กริวเวส (Michael Grieves, Executive Director of the Center for Advanced Manufacturing and Innovative Design (CAMID) at the Florida Institute of Technology) ได้กล่าวไว้ว่าเราขาดความเข้าใจในเรื่องของการศึกษาสำหรับเตรียมบุคลากรในอนาตคไป ในความเป็นจริงเราจำเป็นที่จะต้องอบรมและให้ความรู้กับนักศึกษาในศตวรรษที่ 21 สำหรับให้พวกเข้าได้ทำงานในศตวรรษที่ 21 ด้วยวิธีการของศตวรรษที่ 21
“เราจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเทคโนโลยีไปพร้อม ๆ กับบุคลากรและแรงงานในด้านนั้น”
เชื่อมโยงเทคโนโลยีเข้ากับผลลัพธ์ทางธุรกิจ

หนึ่งการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในการผลิตในปัจจุบันคือการเปลี่ยนความสำคัญจากผลิตภัณฑ์ไปเป็นการใช้งาน ภาคธุรกิจกำลังเผชิญกับการถือกำเนิดใหม่ของ “เศรษฐกิจแห่งประสบการณ์และการรับรู้ (Experience Economy) ” ซึ่งผู้บริโภคไม่สนใจในการเป็นเจ้าของสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่จะสนใจไปกับประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับจากสิ่งนั้น ๆ แทน

ไมเคิล กริวเวส (Michael Grieves) กล่าวว่า ผู้บริโภคในอนาคตไม่สนใจที่จะเจาะหลุม แต่พวกเขาเหล่านั้ต้องการที่จะได้หลุม

ศาสตราจารย์ หลี่เจิ้ง (Professor Li Zheng) ยังให้ความเห็นเพิ่มว่าเทคโนโลยีก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับบริษัทเช่นกัน เป้าหมายที่แท้จริงทางธุรกิจก็คือเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เช่น มีการนำเอาเครื่องจักรอัตโนมัน (Automation) มาเพื่อใช้เพิ่มผลผลิต คุณภาพ หรือลดต้นทุน (ก่อเท่านั้น)
“ถ้าเรารู้วัตถุประสงค์ของเรา เราสามารถปรับใช้ความสามารถของเราและเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่อย่างเหมาสม”
“นั่นหมายความว่าเราเลือใช้เทคโนโลยีเพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจ “ไม่ใช่แค่คุณซื้อซอฟต์แวร์และซื้อฮาร์ดแวร์และติดตั้งไว้ในเวิร์คชอป”

ในที่นี้เทคโนโลยีมันเกี่ยวข้องกับคนมากขึ้น คุณต้องฝึกคน คุณต้องเปลี่ยนความคิดและเปลี่ยนวิธีที่คุณทำงาน และมันคือการปฎิรูปการผลิต
เมื่อเป็นเช่นนี้ ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม จำเป็นจะต้องลทุนในด้านเทคโนโลยีเป็นอันดับแรก ผู้นำขององค์กรจะต้องมีวิศัยทัศในอันที่จะพัฒนาตนเองโดยใช้เทคโนโลยี และจำเป็นต้องผลักดันไปในแนวทางที่ต้องการ สุดท้ายต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เทคโนโลยี เสมือนจริง (Augmented Reality, AR) จะเข้ามามีส่วนในการปฎิรูปการผลิตในภาคอุตสาหกรรม

หนึ่งในการพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในการผลิตคือเทคโนโลยี เสมือนจริง (Augmented Reality, AR) ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานโลก ในความเป็นจริง และโลกเสมือนที่สร้างขึ้นมาผสานเข้าด้วยกันผ่านซอฟต์แวร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างข้อมูลอีกข้อมูลหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบบนโลกเสมือน (virtual world) เช่น ภาพกราฟิก วิดีโอ รูปทรงสามมิติ และข้อความ ตัวอักษร ให้ผนวกซ้อนทับกับภาพในโลกจริงที่ปรากฏบนกล้อง ลองจินตนาการว่าช่างได้สวมแวนตาที่ต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ AR แล้วมองไปยังใบพัดเครื่องจักรที่เป็นรูปสามมิติ โดยที่ช่างสามารถหมุนตัวใบพัดได้ 360 องศาเพื่อศึกษาการทำงานของใบพัดเมื่อนำไปติดตั้งในตัวเครื่องจักร
ด้วยเทคโนโลยี AR จะทำให้เกิดการปฎิรูปในด้านการฝึกอบรม และการวิเคราะห์ในด้านความปลอดภัยเพื่อช่วยให้สภาพพื้นที่การทำงานมีความปลอดภัยที่สูงขึ้นการจากจำลองด้วยเทคโนโลยี AR เมื่อคนงานใช้แว่นตา AR ในการเรียนรู้วิธีการเทคนิคในการประกอบอุปกรณ์ได้อย่างถูกต้องเป็นผลให้พนักงานจะได้เรียนรู้ได้เร็วขึ้นลดเวลาและเงินที่จำเป็นสำหรับการฝึกอบรม รวมทั้งลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับคนงานที่ไม่มีประสบการณ์ในการประกอบอุปกรณ์ นอกจากนี้ เทคโนโลยี AR ยังจะช่วยในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น

การสื่อสารและข้อมูลจากเทคโนโลยี Big Data จะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาคอุตสาหรรม
ด้วยเทคโนโลยี Big Data จะทำให้เกิดการสื่อสารในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นไปได้อย่างง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ข้อมูลต่างจะถูกเชื่อมโยงและสื่อสารกันระหว่างแต่ละหน่วยงานในโรงงานและรวมถึงผู้ผลิตวัตถุดิบตลอดถึงลูกค้า เพื่อให้ข้อมูลต่าง ๆ ใช้งานได้อย่างเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น ทั้งในการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาในด้านต่าง ๆ สั่งสินค้าและดูข้อมูลสินค้าคงคลัง ดูวันระยะเวลาสินค้าที่ถูกจัดเก็บในคลังสินค้า รวมถึงของเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Time

What’s The Future of Manufacturing? An Expert View

November 15, 2018

By Cameron Wilson

10 งานมาแรง